หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อนี้ “กัน จอมพลัง หรือ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์” จากการเป็นกระบอกเสียงและลงพื้นที่ช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อน เป็นที่พึ่งยามยากของคนทั่วประเทศ ล่าสุดมาเปิดใจในรายการ ถึงเรื่องราวในชีวิต กว่าจะมาเป็น “กัน จอมพลัง” เคยลำบากมาก ถูกลูกน้องขโมยเงินเป็นล้าน โดนระเบิดปาร้าน แต่โดนฟ้องกลับจนต้องสู้คดี จำฝั่งใจจนถึงทุกวันนี้จึงอยากให้ผู้คนได้รับความเป็นธรรม ในรายการ WOODY FM
อยากคุยด้วยมานานแล้ว และนับถือจิตใจของคุณ คุณรู้หรือยังว่าเกิดมาเพื่ออะไร ?
กัน จอมพลัง : จริงๆตอนนี้น่าจะช่วยเหลือคนนะ แล้วก็เพื่อครอบครัว ทำเพื่อลูกสาว ที่ทำตรงนี้อยากให้ลูกสาวเดินตามทางนี้ ทำเหมือนผม อยากให้เขาเห็นว่าพ่อเขาช่วยคนมาเยอะ เป็นตัวอย่างที่ดี อยากให้เขาภาคภูมิใจ ในสิ่งที่พ่อเขาทำให้ทุกคน
วัยเด็กเราถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน ?
กัน จอมพลัง : โอ้โห! ผมนี่ถือว่าไม่ใช่ลูกรักนะ ลำบากตั้งแต่เด็ก ถ้าย้อนไปตั้งแต่เด็กๆ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ พี่ชายเป็นคนที่รักเรียน แม่เขาก็อาจจะให้การสนับสนุน แต่ไม่ใช่ว่าผมมาตัดพ้อน้อยใจอะไรนะ ตัวผมชอบทำงานใช้ชีวิต อยู่กับครอบครัวถึง ม.2-3 ก็ออกมาโลดแล่น เข็นผักอยู่ตลาดบ้าง มาขับวินบ้าง ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนๆ ก็หล่อหลอมด้วยหลายๆอย่างจากประสบการณ์ จากเพื่อน การทำงาน เจออะไรมาก็เยอะลำบากมาก็เยอะ สู้ชีวิตจนอยากที่จะเป็นเถ้าแก่ อยากจะมีเงินมีทอง อยากมีการยอมรับจากหลายๆคน
ตอนที่โตขึ้นมาพ่อแม่บอกไหมว่าอยากให้เป็นอะไร ?
กัน จอมพลัง : แม่อยากให้เรียนจริงๆ ผมจำขึ้นใจเลย แต่ผมมันไม่รักเรียน ผมจบแค่ กศน. มัธยมปลาย แต่จังหวะชีวิตผมโชคดีตรงที่มาอยู่ตรงนี้ได้ แม่คาดหวังให้เรียนไปทำงานดีๆ มาเป็นหน้าเป็นตาให้แม่ อยากให้จบปริญญาตรีให้ไม่อายชาวบ้าน ส่วนพ่อผมไม่ได้อยู่กับพ่อตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่มีจังหวะมาเจอกันตอนทำร้านบะหมี่บ้าง พ่อแทบไม่คาดหวังกับผมเท่าไหร่นัก
ในวันที่เรามีชื่อเสียงแล้ว คุณบริหารจัดการกับอำนาจและชื่อเสียงอย่างไร ?
กัน จอมพลัง : ยิ่งเราเติบโต เรายิ่งต้องอ่อนน้อมถ่อมตน สิ่งที่เราต้องมีนะ ผมเชื่อเรื่องนี้บางคนขึ้นได้ก็ดับได้ ถ้าเราหลง คือมันไม่ใช่แค่ผม มันมีประสบการณ์ในโลกนี้เยอะแยะมากมาย บางคนขึ้นอยู่ในจุดสูงสุดแต่พอหลงตัวเอง คิดว่าฉันยิ่งใหญ่มาก ทุกคนต้องแคร์ฉัน ผมเห็นลงทุกคน แต่วันนี้ถ้าสมมุติมีคนรักผม สิ่งที่ผมจะบอกเขาคือขอบคุณ เราต้องประคองตัวเองให้ได้อย่าหลง ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนให้เป็น อันนี้คือสิ่งที่ผมเป็นตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ ผมยกมือไหว้ได้กับทุกคน จริงๆ ไม่ได้คิดจะมาทำใหญ่ขนาดนี้ จังหวะนั้นมันเป็นช่วงโควิดอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆรวมตังค์กัน ตอนนั้นมันเป็นช่วงที่คนป่วยเยอะ หารถไปรับส่งไม่ได้ ก็เลยซื้อรถ
ทุกคนก็เลยตั้งบัญชีกลุ่มแล้วก็โอนตังค์กันซื้อรถออกไปรับคนป่วย จากรับส่งก็กลายเป็นขาดเตียง ก็เริ่มประสานหาผู้ใหญ่ ให้ผู้ใหญ่ช่วย เลยทำกันมาเรื่อยๆ เน้นช่วยคนที่ลำบากจริงๆ พอเราช่วยได้ หลังๆ คนก็เริ่มติดต่อเข้ามา แต่คราวนี้พอติดต่อมามันก็เกินเรื่องโควิดไปเรื่องอื่นแล้ว ผมโดนรังแก โดนผู้มีอิทธิพลรังแกโน้นนี่นั่นเราก็เลยลองประสานพี่ๆที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ก็ทำมาเรื่อยๆ ซึ่งสมัยก่อนผมเองอยากจะทำอะไรอย่างนี้ตั้งแต่เด็กๆ สมัยก่อนตอนทำร้านบะหมี่ผมเคยถูกลูกน้องขโมยเงิน ไม่ใช่แค่คนเดียวคือทั้งร้านร่วมกันขโมย นี่ยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะ ที่ผมมาจับได้เพราะเริ่มจากเด็กคนหนึ่งเสียผลประโยชน์ ซึ่งขโมยเงินไปวันละ 2-3 หมื่น ซึ่งสมัยก่อนผมขายบะหมี่ดีมากได้วันละ 2 แสน
ระบบเช็คบิลของคุณไม่ใช่ระบบคอมฯ ?
กัน จอมพลัง : ผมเก็บสด แต่ก่อนผมลำบากนะ ผมเอาชามใบหนึ่งใส่ถุงพลาสติก รับออเดอร์ฉีกกระดาษจดใส่ลงไปแค่นี้ ลูกค้าเก็บเงินก็ใส่ลงไป ไม่เคยรู้เลยว่าขายไปกี่ชาม ได้ตังค์เท่าไหร่มีแต่กระดาษกับเงินสด ลูกน้องตอนเลิกงานมีหน้าที่เก็บกระดาษมานั่งนับ จะเอาเงินออกเท่าไหร่ก็เอาออกให้ตามกระดาษ อย่างวันหนึ่งขายได้ 5 หมื่น อาจจะเหลือให้เรา 2 หมื่น จับได้ก็คือตอนกลางคืนหลังจากที่โกง ขโมยเงินเสร็จไปแบ่งกัน เด็กอายุน้อยที่สุดไม่ได้ตังค์ รุ่นพี่เอาเปรียบ พอทำบ่อยๆ เด็กก็รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ ก็เลยมาบอกผมว่าพี่รู้ไหมว่าตอนนี้กำลังถูกขโมยเงินอยู่ จนมารู้ว่าขโมยกันทั้งร้าน รวมทั้งหมดเอาไปถึง 2 ล้านเยอะมาก
แล้วเราทำยังไงต่อไป ?
กัน จอมพลัง : ผมใจดี เป็นคนที่ให้โอกาสคน ผมบอกว่าเขียนมาว่าเอากันคนละเท่าไหร่ แล้วก็ทำงานผ่อนไปแล้วกัน หักไปเรื่อยๆ บางคนลาออกก็เอาเงินมาคืน ถึงวันไม่เอาเงินมาคืน นี่เป็นบทเรียนในชีวิตผมเลยนะ กลับเอาระเบิดมาปาร้าน 3 รอบ นั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตผมเลย ทำให้ผมฝั่งใจเลยว่าการที่เราให้โอกาสคนที่เขาทำร้ายเรา ขโมยเงินเรา สุดท้ายเขาก็ไม่นึกถึงสิ่งดีๆ ที่เราให้เขา หลังจากนั้นผมก็ไปแจ้งความแต่ไม่รับ ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รับแจ้งความแค่ลงบันทึกประจำวัน แต่ผมมารู้ว่า 1 ใน 30 คนที่เป็นลูกน้องผม
คนหนึ่งเคยเป็นคนที่นามสกุลดัง และผมโดนแจ้งความกลับโดยลูกน้องคนนี้ว่าผมไปหมิ่นประมาท พรบ.คอมฯ ซึ่งผมน่าจะโดนคนแรกของประเทศ จริง! ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟังนะ พี่เชื่อไหมผมต้องไปประกันตัวเองที่ศาล ความรู้สึกมันเป็นยังไง ความยุติธรรมมันเกิดกับคนจนไหม มันเกิดกับคนที่ไม่นามสุกลดังไหม นั่นคือฝั่งใจผมตั้งแต่นั้นมา แล้วผมสู้คดีจนผมชนะ ผมพูดวันที่ผมประกันตัวจำได้เลย วันไหนกูมีเงินบ้าง วันไหนกูมีบารมีบ้างนะ จะมาแจกคนที่เหมือนเราตอนนี้ฟรีๆ เลย สู้กับพวกนี้ให้เต็มที่เลย วันนี้ผมเชื่อว่าผมทำแบบนั้นได้แล้ว ผมก็เอามาแจกคนฟรีๆ
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์วันนั้น อยากรู้ว่าหลังจากนั้นคุณยังไว้ใจคนอยู่ไหม ?
กัน จอมพลัง : ไม่ครับส่วนตัวผมนะ คนเรามันทำผิดได้ ควรได้รับโอกาส แต่สำหรับตัวผม ผมจะไม่ให้โอกาสคนที่ขโมยเงินอีกเลย ใครเลือกที่จะขโมยผม หักหลังผม ผมจะไม่ให้โอกาสเขาเลย แม้กระทั่งเพื่อนพี่น้อง เช่น คุยกับผมแต่ไปด่าผมลับหลัง หรือไปทำอะไรลับหลังที่โจมตีผม ถ้าจับได้คือไม่มีการให้โอกาส ผมตัดทิ้งทันที เพราะผมคิดว่าผมมีดีพอที่จะคบคนที่เขาดีกับผมได้ จะไม่อดทนกับคนที่เขาทำร้ายผม
คุณรับมือกับผู้มีอิทธิพลยังไง ?
กัน จอมพลัง : มันก็จะมีคนที่ไม่รู้ว่าผมมาทำแบบนี้เพื่ออะไร มาเรียกเงินหรือเปล่า สมมุติเวลาไปเขย่าหรือสู้กับนักการเมือง ก็จะมีการติดต่อมา น้องคิดตัวเลขยัง น้องลองบอกตัวเลขมาก็ได้นะ ซึ่งผมไม่เอาเลย แล้วคนที่ขอผมแบบนี้คือเลิกคุยกัน แล้วจะไม่มีทางได้คุยกันอีก ถ้ามาขอยัดเงินผมนะ ผมก็จะเอาให้เต็มที่ ผมไม่ได้มาหากิน ผมมาทวงความเป็นธรรมให้คนที่เขาลำบากยากจน คนที่เขาไม่มีโอกาสได้สู้ แต่ถ้าเลือกจะคุยกับผมว่าจะเยียวยาคู่กรณีผมคุย
เคยมีโดนขู่บ้างไหม ?
กัน จอมพลัง : ถามว่าขู่ มันก็มีปากดีแบบนั้นเยอะ พวกคอมเมนต์ก็เยอะแยะ แต่ถามว่าผมกลัวไหม ผมก็ไม่กลัวแต่ผมระวังตัว คือเราออกมาช่วยคนลำบากยากจน สิ่งที่เราต้องมีก็คืออย่างแรกเราก็ต้องทำให้เขามั่นใจให้ได้ แล้วเราช่วยคนเราก็ไม่ได้ช่วยแค่เคทเดียว เราต้องช่วยอีกนาน ต้องช่วยตลอดไป การที่ผมออกมาทำแบบนั้นเพื่อสังคม ผมก็ทำให้ภรรยาผมสบายใจด้วย คือการที่อาจจะต้องมีบอดี้การ์ดมาคอยระวังความปลอดภัยให้ ภรรยาเป็นห่วงผมมากๆ แต่ตอนจบของเรื่องคนที่เราช่วยที่บางคนลำบากจริงๆ บางคนลำบากมาเป็นปี บางคนอดทนมาเป็น 10 ปี พอเราไปช่วย 1-2 วันเขาจบ ภรรยาก็โอเค รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำคุ้มค่า อาจจะเสี่ยงหน่อย แต่ทำให้คนได้เข้าถึงความเป็นธรรมจริงๆ