แจกความฉ่ำหัวใจกันอีกแล้วสำหรับ วอดอวอแว EP นี้ที่มีแต่คำว่าเขิน! พบกับหนุ่มหล่อเสียงดี “เจฟ ซาเตอร์” มาโชว์พลังเสียงนุ่มละมุน งานนี้ต้องโดนเซอร์ไพร์สจากน้องชายคนสนิทที่แปลงร่างเป็นคนขายพวงมาลัยโผล่มากลางสี่แยกอย่าง “บาร์โค้ด ตฤณสิษฐ์” ทำเอากรี้ดลั่นรถและยังมีซีนร้องเพลงคู่กัน เท่านั้นยังไม่พอต้องเจอเซอร์ไพร์สอีกครั้งเมื่อแดดดี้ “ไมค์ พิรัชต์” โผล่มาขึ้นรถด้วยกลางทาง พร้อมเผยถึงเรื่องหัวใจของทั้ง 3 หนุ่มว่าตอนนี้สถานะเป็นอย่างไรกันบ้าง และมุมมองชีวิตของไมค์ที่เปลี่ยนไป ทำเอาบรรยากาศอบอวนไปด้วยความจิ้น ความฟิน ไลน์ประสานเสียงคือหูเคลือบทอง ต้องบอกว่าความสุขมันล้นออกมาจากรถเลย
ล่าสุดความอันยิ่งใหญ่ของคุณก็เป็นจริงแล้วรอคอยมากกี่ปี เป็นอย่างที่ฝันไว้ไหม ?
เจฟ : โห! เป็น 10 ปี ผมว่ามันก็เป็นมากกว่าที่เราฝันไว้นะ ได้ไปเจอแฟนเพลงจากในหลายๆเมือง ได้คุยกับเขา ได้เจอคนที่ฟังเพลงเราจริงๆ นี่คือสิ่งที่เราอยากทำมากๆ
เวลาเล่นมุกบนเวทีที่ต่างประเทศเราเป็นยังไง ?
เจฟ : คือผมชอนอยู่แล้วไง ส่วนมากผมจะแนวสดชื่นๆ หน่อย ชอบแอบไปจีบเขา ค่อยๆ จีบบนเวที (หัวเราะ) จะเป็นฟีลคนละแบบ วัฒนธรรมคนละแบบ แต่ละเมืองก็จะมีความน่ารักในแบบของเขา
จำวันแรกที่เราเจอกันได้ไหม ซึ่งเจอพร้อมกับคู่ร่วมงานของคุณคือ น้องบาร์โค้ด คู่นี้เข้ากันเหลือเกิน ซี้กันมากขนาดไหน ?
เจฟ : จริงๆ ก็มีเจอกันบ้าง คือเวลาเห็นน้องประสบความสำเร็จอะไรอย่างงี้ เราก็รู้สึกภูมิใจ แบบอยากเลี้ยงข้าวน้องก็มีบ้าง ส่งของขวัญไปบ้าง เพราะเราภูมิใจกับเขามาก เราสนิทกันมาก เมื่อก่อนเราทำอะไรเราก็ทำด้วยกัน พอไม่ได้เจอเราก็หาเวลามาเจอกันหน่อยดีกว่า มาอัพเดตว่าชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เพราะบางทีคุยโทรศัพท์ฟีลมันก็ไม่ได้ บางทีก็อยากจะมีปฎิสัมพันธ์อะไรอย่างนี้
คิดถึงอะไรบ้างเวลาที่อยู่กับเขา ?
เจฟ : เวลาเราเจอบาร์โค้ดจะเป็นมู้ดที่แบบ มันไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องระวังอะไร มันเป็นธรรมชาติ เข้าใจกันง่าย เป็นพลังงานที่รู้สึกว่าโลกไม่ได้ใจร้าย ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น เวลาอยู่กับเขา
พี่จะต้องซื้อพวงมาลัยตรงสี่แยกสักหน่อย เจฟเปิดหน้าต่างเรียกหน่อย
เจฟ : เฮ้ย! (หัวเราะ)
บาร์โค้ด : สวัสดีครับ เราไม่เจอกันประมาณ 1 เดือนได้ ล่าสุดไปที่งานคอนฯ
คิดถึงกันบ้างไหม ?
บาร์โค้ด : คิดถึงตลอด คือล่าสุดได้ตามดูเขาในรายการที่เขาไปออก รู้สึกว่าพี่เขาเก่งมาก
เห็นล่าสุดไปรับกันที่มหาวิทยาลัยคืออะไร ?
บาร์โค้ด : อ๋อ! รับผมไปดูคอนเสิร์ต
เจฟ : เพราะว่าเราไม่ได้เจอกันนาน อยากให้น้องไปเก็บฟีลคอนเสิร์ต เราเป็นศิลปินเป้นนักดนตรี เราชอบที่จะไปอยู่ในมวลนั้น เห็นว่าช่วงนี้เขาเรียนหนัก
บาร์โค้ด : ช่วงนั้นคือถ่ายซีรีส์ไปด้วยมันเลยหนักทั้งคู่ บางครั้งเราก็ต้องลาเรียนด้วย แต่ว่าเกรดก็ได้ 3.44 ครับ
เรามีเซอร์ไพร์สให้ บาร์โค้ด ด้วย เพราะอยากให้รู้จักกับพี่ๆในวงการ เขาคือแดดดี้ ไมค์ ?
บาร์โค้ด : สวัสดีครับ ติดตามพี่มาตลอดแล้วก็ดูรายการ CHAUNG ASIA พี่เท่ห์มาก
เจฟ : เขาจะดูช่วงที่ไม่มีพี่ไมค์ครับ (หัวเราะ)
รายการสนุกไหม ไมค์ ?
ไมค์ : ตื่นเต้นมาก เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าเขาเอาผมไปทำอะไร เพราะผมเป็นคนพูดไม่เก่ง พอไปถึงเอาไปเป็น MC เลยอ่ะ
บาร์โค้ด : แต่พี่ไมค์เก่งมากเลยนะพูดได้หลายภาษา
ไมค์ : พี่ทำการบ้านหนักมาก
เจฟ : ใช่ เห็นพี่ไมค์เขียนหลายภาษาไว้ในกราฟ แต่เก่งมาก ต้องดำเนินรายการด้วย ต้องเก่งภาษาอีก ปกติพี่ไมค์จะไม่พูดภาษาจีน ภาษาอังกฤษ เขาจะพูดแต่ภาษารักอย่างเดียว
คุณได้ฉายาว่าเป็นแดดดี้รู้สึกยังไงบ้าง ?
ไมค์ : รู้สึกแก่ครับ (หัวเราะ)
เจฟ : คุณชงตัวเองให้เป็นแดดดี้ คุณจะมา!?! แดดดี้ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็เป็นได้
เจฟคุณรู้จักเขาตั้งแต่ กอลฟ์-ไมค์ เลยไหม ?
เจฟ : ผมดู อุบัติรักข้ามขอบฟ้า ไป 3-4 รอบ ผมเป็นติ่ง พี่เต้ย จรินทร์พร ด้วย
ไมค์ : แล้ว ไมค์ พิรัชต์ ล่ะ
เจฟ : ผมไม่ชอบเลยตอนนั้น ในเรื่องทำไมต้องทำร้ายจิตใจพี่เต้ย ขนาดนั้น
ในเรื่องเราเก๊กเหรอไมค์ ?
ไมค์ : จริงๆมันไม่ใช่การเก๊กครับ คือเราเป็นธรรมชาติของเรามาตั้งนานแล้
ตอนนี้หัวใจของแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง ?
ไมค์ : ยังเต้นอยู่ครับผม
เจฟ : คือผมเคยพูดกับแฟนคลับไว้ว่าถ้าผมมีแฟนเดี๋ยวผมจะมาบอกเอง เพราะว่าตอนนี้คือ Relation ของผมกับแฟนคลับมันสบายมาก ผมเชื่อว่าถ้าวันหนึ่งผมมีแฟนขึ้นมาจริงๆ เขาก็คือจะแฮปปี้แหล่ะ แต่ตอนนี้มันยังไม่มีไง เดี๋ยวมีจะมาบอกเอง แฟนๆเขาก็บอกว่ามีสักทีสิ จะได้แต่งเพลงรักสักที
บาร์โค้ด : รู้สึกว่าช่วงนี้ผมอยากที่จะโฟกัสกับงานก่อน เพราะว่าไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป
ไมค์ : ไม่มีครับพี่ เหมือนเจฟเลยยุ่งทุกวัน ตอนนี้ผมทำกี่ธุรกิจยังไม่รู้เลย มีทั้งคอลลาเจน แบรนด์เสื้อผ้าอีก แล้วเดี๋ยวจะเปิดร้านอาหาร เปิด Production Company อีก จะทำหนังให้ตัวเองเล่นอีก ทำงานทุกวันเลยครับ
เจฟ : ผมเนี้ยจะนัดไปกินข้าวกับพี่ไมค์ ประมาณ 2-3 เดือนแล้วยังไม่มีโอกาสไป
ไมค์ตอนนี้คุณมีงานเยอะมาก ไปเอาพลังงานมาจากไหน ?
ไมค์ : เอามาจากพี่วู้ดดี้ครับ แต่จริงๆ ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณพี่วู้ดดี้ก่อนมีคอนเสิร์ต ที่แบบว่าให้คำแนะนำที่ดีมาก แล้วก็คือผมเปลี่ยนไปเยอะมากๆ ปีที่แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว แต่ตั้งแต่ได้คำแนะนำจากพี่วู้ดดี้ พอขึ้นคอนเสิร์ตหรืออะไรรู้สึกมั่นใจขึ้น เราเปลี่ยนไปมากขึ้น ถ้าเป็นสมัยก่อนเจฟเจอพี่นะ เจฟจะเกลียดพี่เลยจะไม่ชอบพี่ แต่ในตอนนี้ผมคิดบวกมาก ไม่มีความรู้สึกลบเลย ซึ่งแต่ก่อนผมเกลียดโลกถึงขั้นนั้นเลย ตอนนี้คือรักทุกอย่าง
เจฟ : พี่ไมค์รักทุกอย่างจริง คือโทรศัพท์ กระเป๋าตังค์ ผมหายหมดแล้ว (หัวเราะ)
บาร์โค้ด : ลักขโมยอ่ะนะ ? (หัวเราะ)