ดาราและนักธุรกิจสาวสวยตัวแม่ของวงการ “วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์” ควงคู่มากับว่าที่เจ้าบ่าว “นิกม์ ธนะภูมิกุล” ซึ่งเป็นการออกรายการคู่กันครั้งแรก เปิดใจวันนี้เราเลือกถูกแล้ว! ไม่ได้คบเพราะเป็นไฮโซ อนาคตอยากมีลูกกับคนนี้ เป็นคอมฟอร์ทโซนของกันและกัน ในรายการ WOODY INTERVIEW
เป็นการเจอกันครั้งแรกสำหรับวู้ดดี้กับนิกม์ อยากจะบอกว่าพลังงานของวุ้นและนิกม์ที่สัมผัสได้เป็นพลังงานที่นิ่ง สงบ เย็น ?
วุ้นเส้น : นิกม์เขาเป็นคนสงบมาก คือเราเป็นตัวของตัวเองมาก ก็ถามเขาเหมือนกันว่าเขาเป็นไหม แบบอยู่กับเรากลัวว่าเขาคบคนในวงการจะเกร็งไหม หรือจะออะไรไหม สุดท้ายแล้วเขาสามารถบาลานซ์ได้ เขาก็คือเก่งอยู่แล้วในเรื่องของการทำงาน แต่ว่าในการใช้ชีวิตกับคนๆหนึ่งมันคือสิ่งที่ไม่ง่ายชีวิตคู่ ชีวิตที่แบบต้องเรียนรู้คนๆ หนึ่งแล้วสามารถทำให้เขามีความสุขได้ในทุกๆวันมันยาก เราก็ต้องมีอารมณ์เป็นมนุษย์ที่บางวันเราอาจจะไม่ได้รู้สึกดี แต่ทำไมยังทำให้อีกคนหนึ่งยิ้มได้อยู่ ซึ่งเราใช้วิธีนี้เลยทำให้เราคบกันได้จนถึงทุกวันนี้จนถึงแต่งงาน
แล้วตอนไหนที่รู้สึกว่าใช่แล้วคนนี้ ?
นิกม์ : คืออย่างที่วุ้นบอก มาตราฐานการใช้ชีวิตเราใกล้เคียงกันในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อน ทั้งเรื่องอยู่ที่บ้านก็เหมือนกัน มาตราฐานมันใกล้เคียงกัน แล้วบางอย่างที่ปรับได้เราก็ปรับเข้าหากันก็ไปต่อกันได้ คิดว่าวันหนึ่งมันมีความรู้สึกว่ามันเป็นทีมเดียวกัน มันเชื่อใจกันระดับหนึ่งที่รู้สึกว่าเป็นทีมเดียวกัน เราคุยกันได้ทุกๆเรื่อง คุยกันได้ว่าเป้าหมายชีวิต พร้อมๆ กัน ด้วยกันมันคืออะไร จนถึงวันนั้นก็เลยรู้สึกว่าเชื่อใจว่าเขาเป็นคนที่อยู่กับเราได้แล้วก็มีความมั่นใจ มีความเชื่อใจกันเยอะพอที่จะก้าวไปสู่ขั้นต่อไปที่จะขอวุ้น
เล่าให้ฟังหน่อยว่าตอนที่ขอกระบวนการเป็นยังไง ?
นิกม์ : ถ้าภายในก็คือรู้สึกว่าชีวิตมันมีหลาย Chapter คิดว่า Chapter คนโสด Chapter วัยรุ่น มันผ่านมาแล้วเรารู้สึกได้ ก็เลยอยากที่จะมี Chapter ต่อไปกับวุ้น เพื่อนๆ เขาก็สนับสนุนเรา ทั้งพี่นานา ทั้งโยเกิร์ต ทุกคนสนับสนุนเราหมด ทุกคนก็ถามว่าเมื่อไหร่แต่งๆ ซึ่งจริงๆเราคิดไว้อยู่แล้ว แต่ว่าเพื่อนๆเขาก็ช่วย
วุ้นเส้น : เราก็ไม่คิดว่าเขากล้า เพราะเขาเป็นคนแบบนี้นิ่งๆ เรียบร้อย เรากลัวว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าเราจะตอบตกลง แต่ตอนมาขอนิกม์ค่อนข้างที่จะตื่นเต้นเท่าที่คุยกัน เขาบอกตื่นเต้นมาก แค่การที่จะเอ่ยหรืออะไรคือเขาคิดมาเยอะมาก แต่เราไม่รู้ตัวนะ ไม่รู้เรื่อง แต่ถามว่าเหมือนตอนนั้นเราคุยกันถึงระดับที่มองอนาคตร่วมกันแล้ว เขาเลยมั่นใจมากขึ้นว่า โอเคเขามีสิทธิที่จะขอเราได้
นิกม์ : มันมีทริปหนึ่งที่เราจะไปด้วยกันอยู่แล้วที่ฝรั่งเศส แล้ววุ้นเขาก็จะเอาชุดไปถ่ายเขาทำแบรนด์เสื้อผ้า ก็เลยมีช่างกล้องที่เป็นคนไทย ก็เลยคุยกับน้องเขาว่าเดี๋ยวพี่จะขอนะ ฝากน้องช่วยเก็บโมเมนต์ตรงนี้ไว้หน่อย
วุ้นเส้น : แต่การคิดมุมอะไรของเขาหมดว่าต้องตรงนี้ แล้วเราก็แอบแปลกๆนะวันนี้ ทำไมรู้สึกดูลนๆ แล้วปกติไม่ใช่แบบนี้ เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันเขาจะรอเราตลอด แล้วเหมือนเขาลงไปก่อนแล้วก็ไม่ได้เดินมาใกล้ๆด้วย เพราะกลัวเราจะจับได้ว่าเขาซ่อนแหวนไว้ แต่เราก็ไม่คิดว่าเขาจะขอวันนั้น
วินาทีที่เขาขอเราวินาทีที่คิดในหัวคือ ?
วุ้นเส้น : เราก็คิดว่าต้องเป็นคนนี้แหล่ะ แต่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ คือไม่ได้เซอร์ไพร์สในขนาดที่แบบว่าเขาไม่มีวันขอเรา ในใจเรารู้อยู่แล้วว่ามันจะมีวันของเรา 2 คน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นทริปนี้ แต่พอเป็นทริปนี้จริงๆ ก็รู้สึกว่ามือสั่น เหมือนแบบไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร สิ่งที่เขาคิดมาว่าจะพูดกับวุ้นก็เหมือนพูดไม่หมด ต้องมาพูดทีหลังอีกทีหนึ่ง วันนั้นก็คือพูดแค่ใจความสำคัญที่มันเป็นสิ่งที่เราคิดเหมือนกันจริงๆ เราถึงโอเคว่าแบบสงสัยต้องแต่งล่ะ เขาก็เลยลงไปคุกเข่าอย่างที่เห็น
เชื่อแล้วล่ะว่าพวกคุณได้เจอคู่แท้ ?
วุ้นเส้น : เหมือนทุกคนแฮปปี้กับวุ้นมาก แต่เราก็ยังพูดเสมอว่าทุกวันนี้เราโอเค แต่เราแบบไม่อยากไปพูดถึงอนาคตเยอะ ซึ่งไม่มีใครรู้อนาคต แต่วุ้นคิดว่าวันนี้เลือกถูกสำหรับวุ้น วุ้นทำดีที่สุด แล้วเขาก็ทำดีที่สุด แล้วเราสบายใจ ปัจจัยอื่นคือมันไม่ได้สำคัญกับเราขนาดนั้น
เคยได้ยินเสียงผายลมของวุ้นเส้นไหม ?
วุ้นเส้น : ทำไมจะไม่เคยล่ะ (หัวเราะ) นี่มันจะ 5 ปีแล้ว คือแบบฉันคงแต่งงานกับคุณไม่ได้ถ้าคุณไม่ได้ฟัง คุณต้องเข้าใจ
นิกม์ : หัวเราะ
สิ่งที่ นิกม์ ซัพพอร์ตคุณ ?
วุ้นเส้น : ทุกอย่างเลยค่ะ ก็คือฟังเรา คือจริงๆ วุ้นรู้สึกว่านิกม์เป็นกำลังใจที่ดี วุ้นมีเรื่องเครียดอยู่แล้ว ทำธุรกิจขนาดนี้ เราก็ต้องมีปัญหามีอุปสรรค มีความหลายอารมณ์มากๆ แต่เราเอากลับมาที่บ้าน เราก็เลยเล่าให้เขาฟังว่าแบบมันมีอะไรแบบนี้ เราตัดมันไม่ได้เลย เขาก็ช่วยฟัง แล้วก็หาทางออกให้ บางทีก็แก้ปัญหาให้ เหมือนพอมีความคิดดีๆเข้ามา ก็ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว รู้สึกว่ามีคนมาช่วยแบ่งเบาความเครียดของเราไป เขาไม่ได้รับไปทั้งหมด เพราะวุ้นก็เป็นคนที่แบบแคร์เขาเหมือนกันว่าแบบถ้าเราไปเครียดใส่คนที่เรารักหรือว่าคนที่เราตั้งใจให้เขามีความสุข วุ้นก็ไม่สบายใจด้วยตัวเองด้วย คือวุ้นอยากให้เขาแฮปปี้ 100% แต่ว่าถ้าบางวันงานเครียดจริงๆ เราก็ต้องบอกเขา คุยกับเขา เขาเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นพาร์ทเนอร์ในชีวิต ซึ่งเขาเป็นคนที่แบ่งเบาให้เราได้ดีมาก
คนชอบพูดว่าคุณต้องคบกับไฮโซ ?
วุ้นเส้น : ไม่ใช่เลย แต่เราก็เข้าใจว่าเพราะเราก็เจอแบบนี้มาตลอด ดารากับไฮโซ จริงๆเราไม่ได้คบกันที่ภายนอกแบบนนั้น คือวุ้นอยู่กับนิกม์วุ้นไม่ได้มองเรื่องนั้น คือเรา 2 คนเป็นคนที่ทำมาหากินด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็กทั้งคู่
นิกม์ : คือจริงๆที่บ้านเป็นครอบครัว ไทย-จีน ตอนเด็กๆ ก็เน้นเรียนให้เก่ง ให้ดี แล้วก็ทำงานหาประสบการณ์ออฟฟิศ แล้วก็ทำธุรกิจ ก็เป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะเป็นสายไฟแนนซ์สายเรียน จริงๆสมัยก่อนก็เป็นเด็กเนิร์ด ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะรู้จักคนในวงการ เป็นคนของประชาชน ปกติเราก็อยู่ออฟฟิศแล้วก็ไปทำงานต่างประเทศ ไม่ได้คิดว่าจะเจอวุ้นด้วยซ้ำ แต่ว่าเพื่อนๆ เป็นกลุ่มเดี๋ยว
วุ้นเส้น : คนก็ชอบคิดว่าดาราคบกับไฮโซต้องแบบ มองเรื่องนั้นหรือเปล่าอะไรแบบนี้ แต่มันกลับกลายเป็นว่า ถ้าเขาไฮโซจริงๆขนาดนั้น เราอาจจะไม่กล้าเป็นตัวเองขนาดนี้ เราจะมีความอึดอัดหรืออะไรบางอย่างที่เราก็ไม่รู้ อธิบายไม่ถูกแต่ว่าพอเขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่แบบทำงานก็เหมือนเราตั้งแต่เด็ก เหมือนเราก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเองไม่เคยขอเงินใคร ก็เหมือนซับพอร์ตกันแต่เรื่องแบบสมองในการทำงาน เขาเองก็เป็นคนขยันมาก บางที 5 ทุ่มเรายังบอกเขาว่าหยุดทำงานก่อนได้ไหมบางทีแบบอยู่บ้านแล้วก็อยากรีแลกซ์ พอเป็นคนแบบนี้เหมือนกันก็รู้สึกว่าเราชอบที่ความตั้งใจของเขา ไม่ได้ชอบที่คนนี้ต้องรวยหรือต้องอะไร วุ้นเลือกจากความสบายใจ เพราะนิกม์คือ Comfort Zone ของวุ้น สิ่งนี้มันประเมินค่าไม่ได้ คือวุ้นว่าเงินเราหาเองได้ อาจจะไม่ได้เป็นคนรวยมาก แต่ว่าเราขอมีความสุข เพราะรู้สึกว่าความสุขมันหาจากที่อื่นไม่ได้ เราต้องได้จากความรักดีๆ สำหรับวุ้นนะ แค่นี้ก็พอ แล้วเราจะสามารถใช้ชีวิตไปจนตายได้อย่างมีความสุข
อนาคตชัดเจนเหมือนกัน ภาพที่เห็นร่วมกันมีเรื่องของลูกอยู่ด้วยไหม ?
วุ้นเส้น : เขาอยากมีนะ (หัวเราะ)
นิกม์ : บอกเขาครับ
วุ้นเส้น : ถ้ามีได้ก็อยากมีกับเขา เพราะว่าตอนวุ้นอยู่กับเขา เหมือนเราเลี้ยงแมวด้วยกัน แล้วเราเลยเห็นภาพเขาเวลาอยู่กับแมว ว่าเขาอบอุ่นเบอร์ไหน ดูแลแมวยังไง มันเป็นความรู้สึกที่เรามองออก ถ้าแมวตัวนั้นเป็นลูกของเรา เขาก็คงต้องดูแลดีอะไรยังงี้ มันเป็นความโชคดีด้วยแหล่ะที่เรามีแมวด้วยกัน ก็เลยมองเห็นว่ามันทำให้เราอยากแต่งงานกับคนนี้ เพราะว่าเราได้เห็นมุมของเขาแบบนี้ แล้วรู้สึกว่าถ้าเรามีลูกกับคนนี้ รู้สึกว่าเขาดูแลได้ดี แต่ว่าเรื่องของอายุต้องดูด้วยว่ามันได้หรือเปล่า แต่เรายังไม่เคยพยายามที่จะมีลูกไง ก็เลยไม่รู้ว่ามันอาจจะได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับอนาคต แต่งงานก่อน
ถ้าแต่งงานแล้ว เราปล่อยตามธรรมชาติเลยไหม คิดว่าต้องวางแผนไหม ?
วุ้นเส้น : คิดว่าต้องวางแผนเรื่องลูก ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่เลยว่าตกลงเรามีหรือไม่มีดีนะ