เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังอาการทรุดหนักหัวใจหยุดเต้นไป 12 นาที
คู่รักที่ความเจ็บป่วยไม่สามารถพรากความสุขและความหวานไปจากทั้งคู่ได้ คุณหญิงแมงมุม – ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล และ เสธ.ดอลลาร์ – พลตรี พัชร รัตตกุล เปิดใจเป็นครั้งแรก! หลังอาการทรุดหนักหัวใจหยุดเต้นไป 12 นาที ถึงแม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคในชีวิต แต่ทั้งคู่ยังจับมือกันร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน พร้อมเผยความลับที่ เสธ.ดอลลาร์ ไม่เคยบอกกับ คุณหญิงแมงมุม มาก่อน งานนี้ทำเอาทีมงานต่างน้ำตาซึมไปตามๆ กัน ขอต้อนรับเดือนแห่งความรักด้วยเรื่องราวที่หลายคนต่างประทับใจ ร่วมซาบซึ้งถึงรักแท้และความมั่นคงที่ทั้งสองคนมอบให้แก่กันและกันในรายการ WOODY EXCLUSIVE
คุณหญิงแมงมุม : นี่เป็นรายการแรกนะที่แมงมุมมาออก
ทำไมถึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เชียงใหม่ครับพี่ดอลลาร์ ?
คุณหญิงแมงมุม : เราชอบเชียงใหม่อยู่แล้ว
เสธ.ดอลลาร์ : เราชอบเชียงใหม่อยู่แล้ว แต่ว่าคือแมงมุมอยู่โรงพยาบาลมาหลายปีแล้วไงจ๊ะ ตั้งแต่ปี 61 ที่เริ่มป่วย แล้วก็อยู่ยาวจริงๆ ก็ตั้งแต่ปี 62 จนถึงปัจจุบัน 99% อยู่โรงพยาบาล เราก็เลยคิดว่าอยากให้เขาลองไปอยู่นอกโรงพยาบาลแล้วถ้ามีปัญหาค่อยไปหาหมอ ค่อยกลับไปฟอกไต เหมาะสมที่สุดก็คือเชียงใหม่เพราะเขาชอบ ด้วยอากาศ อาหาร ธรรมชาติ อยู่ที่โรงพยาบาลมา 2 ปีกว่า พอมาอยู่ที่นี่หมอทางกรุงเทพฯก็ช่วงประสานหมอทางเชียงใหม่แล้วก็ไปโรงพยาบาลในเมืองเพื่อไปฟอกไต อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง ในเคสของแมงมุมไตมันพังก็ต้องเปลี่ยนทำ Transplant ปลูกถ่ายไต ซึ่งเราต้องรอการบริจาคจากสภากาชาด ในขณะรอการเปลี่ยนไตก็ต้องฟอกไต
รอมานานหรือยังครับพี่ดอลลาร์ ?
เสธ.ดอลลาร์ : 2 ปีแล้วครับ
ล่าสุดพี่ไปทำอะไรที่กรุงเทพฯครับ ?
เสธ.ดอลลาร์ : คือตอนนั้นอาการไม่ดีก็มีการติดเชื้อ เพราะว่าเขาเป็นโรค SLE ทานยากดภูมิเยอะมาก เพราะฉะนั้นการมีโอกาสติดเชื้อมันมีอยู่ตลอดเวลา แล้วมันอันตรายเขาเป็นตับอ่อนอักเสบเนื่องจากโรคของเขา ก็ปวดท้องมากเข้าโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ อยู่โรงพยาบาลที่เชียงใหม่ 4-5 วันอาการไม่ดี เกล็ดเลือดก็ต่ำลงมากพี่เลยพากลับกรุงเทพฯเพื่อไปหาหมอทีมที่รักษามา 2 ปีกว่าแล้ว
ภาพที่ผมจำแมงมุมได้เลยก็คือเขามีความสุขในการทำละคร คิดถึงอะไรมากที่สุดเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์ ?
คุณหญิงแมงมุม : มาก ทุกอย่างเลย แมงมุมสนุกกับการทำงาน มันสนุกเหมือนได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในสมองค่ะ จินตนาเรา ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย
แมงมุมทำหลายอย่างมาก เริ่มตั้งแต่วัยรุ่นแล้วเขาก็มีความคิดสร้างสรรค์มากชอบออกแบบ ชอบดีไซน์ ทุกวันนี้ยังมีโอกาสใช้ความคิดสร้างสรรค์ไหม ?
คุณหญิงแมงมุม : กำลังจะมีโอกาสถ่ายมิวสิควีดีโอ กำกับมิวสิควีดีโอ เป็นรุ่นพี่วง The Keylookz เราก็มีโอกาสได้ฟังงานของเขาแล้ว แล้วก็สนิทกัน แล้วแมงมุมก็ชอบเพลงนี้มาก เขาบอกเราว่าถ่าย MV ให้หน่อยสิ แมงมุมก็บอกว่ามองไม่เห็นจะถ่ายได้ยังไง พี่ดอลลาร์ก็ให้เราอธิบายในสิ่งที่อยู่ในสมองเราให้ DOP (ผู้กำกับภาพ) ก็เขาเคยทำงานกับแมงมุมแล้ว ก็เข้าใจกันง่ายค่ะ พี่ดอลลาร์ก็จะเป็นตาของแมงมุม
จริงๆ พี่ดอลลาร์หางานให้เขากำกับก็ได้ แล้วเขาก็ถ่ายทอดให้พี่ เพราะพี่ดอลลาร์เองก็คุ้นชินกับรสนิยมของแมงมุมแล้ว ?
เสธ.ดอลลาร์ : ได้ พี่ก็คิดว่าได้ในระดับหนึ่ง
คุณหญิงแมงมุม : ชินมาก ช้อปปิ้งให้ทุกอย่าง เลือกเสื้อผ้าให้หมด
คุณรู้ไหมว่าแฟชั่นของคุณใน Instagram เป็นยังไง เปรี้ยวที่สุด ?
คุณหญิงแมงมุม : ไม่รู้ค่ะ
เสธ.ดอลลาร์ : พี่ก็อธิบายให้เขาฟังนะ
มันสุดมากคือทุกคนที่ดู Instagram เขาไม่ได้มองว่าคุณนั่งรถเข็นนะ เขามองแฟชั่น เวลาซื้อของพี่ดอลลาร์จะบอกแมงมุมไหม ?
คุณหญิงแมงมุม : บอกค่ะให้จับ บอกสี บอกสไตล์
เสธ.ดอลลาร์ : เขาก็จะถามทุกขั้นตอน เราต้องอธิบายทุกอย่างให้เขาฟังตั้งแต่ตอนจะเลือก เอามาแล้วก็อธิบายให้เขาฟัง ใส่แล้วก็อธิบายให้เขาฟัง
คุณหญิงแมงมุม : ว่าแมทช์กับอะไรค่ะ อย่างวันนี้แว่นตาพี่ดอลลาร์เลือก
แมงมุมรู้ตัวไหมว่าคุณเดินทางเยอะมาก ?
คุณหญิงแมงมุม : ก็ไม่ได้ไปไหนนะ ส่วนใหญ่ที่ออกไปก็เป็นงานแต่งงานเพื่อนสนิท พอดีแต่งกันรวดเดียวเลย 3 คน ก็เลยดูว่าออกไปเยอะ แต่จริงๆแล้วอยู่โรงพยาบาลส่วนใหญ่
มันเป็นความสุขที่สุดไหมแมงมุมเรื่องการแต่งตัว ?
คุณหญิงแมงมุม : จริงๆ แล้วทำงานมีความสุขที่สุด แมงมุมถึงยังมีอีกโปรเจกต์หนึ่ง ทำน้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มไก่หวานนะคะ ใช้ชื่อไก่ย่างเสือใหญ่ ขายตามฟู๊ดแลนด์และซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆ
ได้มีโอกาสดู Wedding วิดีโอของทั้งคู่เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วพี่ดอลลาร์จำได้ไหมในงานแต่งพี่พูดว่าอะไรเกี่ยวกับแมงมุม ?
เสธ.ดอลลาร์ : จำได้ว่าเราพูดว่าจะดูแลเขาจนตาย
แล้วสิ่งที่ผ่านมาที่ทุกคนเห็นพี่ดูแลได้อย่างใช้คำว่าเยี่ยมยอดมาก เหมือนทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน ทุกวันนี้พี่ดอลลาร์ตื่นมานึกถึงแต่แมงมุมเลยใช่ไหม ?
เสธ.ดอลลาร์ : นึกถึงเขาเป็นอันดับหนึ่งจ๊ะ แต่พี่ก็มีสิ่งอื่นๆ ที่ต้องนึกถึงด้วยพี่ยังต้องทำงานอยู่ แต่แมงมุมก็มาเป็นอันดับหนึ่งสำหรับพี่
แบ่งเวลายังไงครับ ?
เสธ.ดอลลาร์ : ยากเหมือนกันนะ แต่ทำได้ เรามีแค่ 24 ชั่วโมง เราก็อยู่กับเขาทั้งวันทั้งคืนแต่พี่ก็ทำได้ โดยที่มีทีมที่ค่อนข้างแข็งแรงช่วยบริหารงานไปด้วย แล้วก็เอาเวลาไปดูแมงมุม
หลายคนอาจไม่เคยทราบมาว่าแมงมุมเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยภาวะหัวใจวายเฉียนพลัน ขณะที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลโดยหัวใจหยุดเต้นไปนาน 12 นาที
คุณหญิงแมงมุม : แมงมุมหัวใจวายไป 12 นาที
เมื่อไหร่ครับ ?
เสธ.ดอลลาร์ : วันที่ 18 พฤศจิกายน เขาหัวใจวายไป 12 นาที ในโรงพยาบาลขณะฟอกไต แล้ววันนั้นเป็นความซวยที่ พี่ไม่เคยไปไหนเลยแต่วันนั้นพี่ต้องไปธนาคาร คือเช้านั้นแมงมุมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวหายใจไม่ค่อยออก พี่ก็เริ่มเตือนหมอบอกว่าให้มาดูหน่อยอาการไม่ค่อยดี หมอเขาก็โทรสั่งว่าให้เปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจให้เป็นแบบ High Flow พี่ก็ดูสัญญาณชีพทั้งหมดเริ่มดีขึ้น พี่บอกแป๊ปเดียวนะ เพราะพี่นัดธนาคารไว้ขอครึ่งชั่วโมง พอทำธุรกรรมเสร็จก็ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่า แมงมุมหัวใจวาย หัวใจหยุดเต้น พี่ก็วิ่งขึ้นรถระหว่างทางจากสยามสแควร์กลับมาถึงโรงพยาบาล ใช้เวลา 10 กว่านาที ขณะนั้นพี่โทรกลับมา 3 ครั้ง จำได้ว่าครั้งแรกก็ 3 นาทีไม่มีชีพจร 6 นาทีไม่มีชีพจร 10 นาทียังไม่ถึง ก็ยังไม่มีชีพจร พี่ทำใจแล้ว มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
พอถึงโรงพยาบาลนาทีที่ 11 เขาโทรเข้ามาบอกชีพจรมาแล้ว พี่เหมือนถูกลอตเตอรี่ เขาโทรมานาทีที่ 12 กว่าว่าหัวใจมาแล้ว พี่ก็วิ่งขึ้นไปถึงเขาประมาณนาทีที่ 13 กว่า โชคดีมากๆ ที่ หนึ่งอยู่โรงพยาบาล หัวใจวายที่โรงพยาบาล เพราะฉะนั้น เครื่องไม้เครื่องมือมีพร้อม โชคดีข้อที่สองคุณหมอที่ดูแลแมงมุมเมื่อเขาได้รับโทรศัพท์ว่าท่าทางไม่ดีแล้ว เขาก็กด Cord ในศัพท์ของโรงพยาบาลหมายความว่า Cord 3 หมายความว่าทุกคนต้องมารุมที่คนไข้คนนี้ ทุกคนก็วิ่งเข้ามารุมเตรียมเครื่องปั๊มหัวใจไว้ก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น สิ่งที่สำคัญคือว่าปกติถ้าคนหัวใจวายเกิน 4 นาทีสมองต้องตายละ ถึงจะฟื้นขึ้นมาก็เป็นผัก แต่เนื่องจากว่าเราอยู่ที่โรงพยาบาล นางพยาบาลก็ช่วยปั้มหัวใจตั้งแต่วินาทีแรกที่หัวใจหยุดเต้นทำให้ออกซิเจนขึ้นไปเลี้ยงสมองตลอดเวลาก็เลยไม่มีความเสียหายถาวรกับสมอง
ตอนที่เกิดหัวใจวาย เล่าให้พี่วู้ดดี้ฟังหน่อยว่าตอนที่ไปเป็นยังไง แล้วตอนที่กลับมาเป็นยังไง ?
คุณหญิงแมงมุม : ตอนที่ไปไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ตื่นมาก็ไม่รู้สึกอะไรเหมือนกัน มันเหมือนหลับมากกว่า ก็ยังบอกพี่ดอลลาร์ว่าที่เขาบอกว่าเห็นแสงขาวเห็นอะไรยังงี้ โกหกหมดเลย เราไม่เห็นอะไรสักอย่าง
เสธ.ดอลลาร์ : คือเขาโคม่าไป 2 วัน เราก็อยู่ในความทุกข์มากไม่รู้ว่าเขาจะตื่นไหม ถ้าตื่นแล้วเขาจะเป็นยังไง ไม่มีใครตอบได้ หมอก็ตอบไม่ได้
คิดไหมว่าตอนนั้นเราจะสูญเสียภรรยา ?
เสธ.ดอลลาร์ : คิดแต่พี่ก็ยังมีความหวังอยู่ เพราะเขาสู้
แมงมุมเอากำลังใจมาจากไหนเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ ?
คุณหญิงแมงมุม : กำลังใจมากจากพี่ดอลลาร์เยอะมากๆ จากครอบครัวเยอะมากๆ เพื่อน คือแมงมุมโชคดีที่คนรอบข้างสนับสนุนแล้วก็ทำให้มุมรู้สึกอบอุ่น และก็ให้กำลังใจตลอดมา
หลายคนกลัวเรื่องการจากลา พี่ดอลลาร์และแมงมุมกลัวไหม ?
เสธ.ดอลลาร์ : ไม่กลัว พี่ว่ามันธรรมชาติวันหนึ่งก็ต้องไป ในระหว่างที่เรายังมีชีวิตอยู่พี่คิดว่าเราควรที่จะซาบซึ้งหรือให้คุณค่าสิ่งต่างๆ ที่เขามาในแต่ละวัน แล้วก็ทำวันนั้นให้ดีที่สุด โดยที่ไม่ให้ใครคนอื่นเดือดร้อนนะจ๊ะ
คุณหญิงแมงมุม : ไม่ค่ะ แมงมุมคิดว่าใช้ชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว ตอนวัยรุ่นก็เที่ยวแบบสุด ตอนทำงานก็ทำอย่างสุดเหมือนกัน ทุกอย่างเหมือนเราผ่านมาอย่างแฮปปี้ ก็ไม่เสียดาย
แมงมุมพี่กำลังหยิบนาฬิกาสีทองที่มีคำว่า PDR แล้วทำไมพี่ดอลลาร์ถึงสลักข้อความนี้ และนาฬิกานี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
เสธ.ดอลลาร์ : PDR คือ พัชร ดอลลาร์ รัตตกุล พี่ชอบใช้นาฬิกาแบบนี้เป็นนาฬิกาของพี่อยู่แล้ว แต่วันที่แมงมุมเขาหัวใจวายอยู่ในโคม่าพี่ก็ไม่รู้ว่าอนาคตเขาจะฟื้นไหม กลับมาเป็นยังไง มันว้าเหว่มาก พี่ไม่รู้จะทำยังไงก็นั่งคอยอยู่ ICU 3-4 วัน พี่ก็เลยให้ลูกน้องไปสลักให้พี่มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจว่า พี่เชื่อว่าเขาต้องกลับมาด้วยกำลังใจกำลังกาย แล้วก็รอยยิ้มที่พี่เคยเห็น ลูกน้องก็ไปทำมาแล้วก็เอากลับมาให้พี่
บอกเขาไหม ?
เสธ.ดอลลาร์ : ไม่ได้บอก
คุณหญิงแมงมุม : แมงมุมไม่รู้เรื่องเลย สลักตรงไหนคะ
เสธ.ดอลลาร์ : นาฬิกาที่พี่ชอบ สลักข้อความตรงด้านหลังว่า Waiting For when your come back with strangth and smile again ( รอคอยที่เธอจะกลับมา พร้อมกับกำลังใจและยิ้มอีกครั้งหนึ่ง ) กอด เสธ.ดอลลาร์ : เขาต้องกลับมาเดินได้ พี่มีความเชื่อมั่นนะ พี่เชื่อว่าภายในปีหนึ่งเขาต้องเดินได้