สองเพื่อนรัก “วุ้นเส้น วิริฒิพา – หนิง ปณิตา” ควงแขนกันมาเปิดใจในรายการ WOODY INTERVIEW เผยการเรียนรู้จากประสบการณ์เรื่องความสัมพันธ์ เลือกที่จะรักตัวเองมากขึ้น ตามวันเวลาและแผลที่เกิดขึ้นในชีวิต จนตกผลึกทางความคิด การเริ่มต้นใหม่ดีกว่าอยู่ที่เดิม
ตอนนี้ได้เรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง เพราะคุณ 2 คนอยู่เฟสของความสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนกัน ?
วุ้นเส้น : วุ้นเรียนรู้เรื่องความต้องการของตัวเอง ถ้าย้อนกลับไป 10-20 ปีที่แล้ว ตั้งแต่วัยรุ่นเด็กจนโตผ่านอะไรหลายๆอย่าง เชื่อไหมว่าสิ่งที่ต้องการก็ไม่เหมือนกัน เพราะว่าประสบการณ์เราก็ไม่เคยผ่าน เพราะฉะนั้นก็จะไม่รู้อยู่ในจุดที่สับสนว่าตกลงเราชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่พอมาถึงจุดนี้ผ่านประสบการณ์ทุกอย่างมาแล้ว ทำให้รู้สึกว่าเราติ๊กถูกได้แล้วว่าสิ่งที่ต้องการคืออะไร จะเลือกอยู่กับตรงนั้น แล้วสิ่งที่มันไม่ใช่สำหรับเราไม่มีความสุขก็ตัดออกไป วันนี้เราเรียนรู้ในวัย 40 ต้องเลือกอะไรที่มีความสุขจริงๆ ถ้าไม่มีประสบการณ์เราจะไม่มีทางรู้เลย เราจะรู้ว่าพลังงานดีๆคืออะไร ก็จะเลือกอยู่กับตรงนั้น
หนิง : จริงๆ ก็คล้ายกันนะคะ แต่ถ้าเป็นคำจำกัดความของหนิงในวันนี้ ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นเวลามีปัญหาอะไรเริ่มที่จะเรียนรู้อย่างช้าๆ แล้วสิ่งที่ยากที่สุดคือยอมรับมัน แล้วก็ต้องปล่อยวางกับมัน ซึ่งมันไม่ได้ง่ายมาก แต่มันกลายเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับหนิงในวันนี้ มันจะมีเส้นบางๆระหว่างคำว่าปล่อยวางกับปล่อยเลย ปล่อยวางคือยังต้องอยู่กับมันอย่างที่เรามีความสุข แต่บางครั้งเราเลือกที่ว่าไม่จำเป็นต้องอยู่กับมัน ปล่อยเลยเรามีความสุขกว่า ต้องเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้มากพอที่จะปล่อยบางอย่างออกไป
เราจะรู้ได้ยังไงว่าเมื่อไหร่ที่อยู่ต่ออีก หรือว่าเมื่อไหร่พอ ?
หนิง : หนิงว่าสุดท้ายแล้วต้องทำลิสต์เช็คเรา ถ้าขึ้นตาชั่งแล้วมันลบมากกว่าบวกต้องปล่อย คิดว่าคนแค่ไม่กล้าออกมาจากสิ่งเดิมๆ เพราะว่ากลัวในการเริ่มต้นใหม่ แต่การเริ่มต้นใหม่เชื่อเถอะมันดีกว่าการอยู่ที่เดิม เพราะอยู่ที่เดิมมันมีแค่ว่าเสมอตัวกับเจ็บ แต่ออกไปมันอาจจะดีกับเสมอตัว
วุ้นเส้น : สำหรับวุ้น เวลาเพื่อนบอกว่าทำไมฉันอยู่ตรงนี้แล้วไปไหนไม่ได้สักที เราก็จะบอกว่าไม่มีทางไปได้หรอกถ้ายังมีความคิดอย่างนี้ถ้ายังมีความรู้สึกว่ายังอยากอยู่ตรงนี้ แต่วันหนึ่งต่อให้คุณมีเรื่องไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ถ้าคุณไม่ไหวแล้ว ลิมิตความอดทนตรงนั้นมันจะหายไป คนเราเวลาอยู่ด้วยกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความอดทนใช่ไหม แต่มันอดทนในแบบที่มีเหตุผล ถ้าเกิดต้องทนแล้วทำร้ายตัวเองวุ้นก็ไม่แนะนำ แต่วุ้นไม่สามารถบังคับได้ ความรักมันไม่มีใครรู้ดีเท่าคน 2 คน
หนิง : กรณีนี้คือเราไม่รักตัวเองมากพอ ที่จะกล้าปล่อยคนที่เรารักให้ออกจากชีวิตไป ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเรารักตัวเองไม่เป็นก็ไม่สามารถจะรักใครได้ดี
วุ้นเส้น : เราก็รักตัวเองมากขึ้น ตามเวลาและตามแผลที่เกิดขึ้นในชีวิต
เคยมีจุดที่เราไม่รักตัวเองไหม ?
วุ้นเส้น : มี มีตลอด โตมาขนาดนี้เราเจอคนเยอะมาก เจออะไรหลายแบบ มีทั้งคนที่พูดแล้วเรารู้สึกดี เป็นพลังในการใช้ชีวิตของเรา กับพลังงานบางอย่างที่รู้สึกว่าทำไมทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ บางคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ก็จะมีเรื่องต่างๆ เรื่องเล็กแต่ทำไมทำให้เราเจ็บปวดเหลือเกิน แล้วเมื่อก่อนวุ้นเป็นคนที่อยากให้คนอื่นมีความสุขมากกว่าตัวเอง ไม่รู้เลยว่าทุกครั้งที่คิดแบบนี้ ทุกครั้งที่ยอม หรือทุกครั้งที่เราเจ็บ มันกำลังทำร้ายตัวเองอยู่ แล้ววุ้นไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้ว คนอื่นมีความสุขแต่เรามานั่งเจ็บมานั่งร้องไห้มันไม่แฟร์กับชีวิตเรา เพราะฉะนั้นจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ พอใช้คำว่ารักตัวเองมากขึ้นพลังมันมาจากไหนไม่รู้ พลังที่จะใช้ชีวิตใช้ในการทำงานมันกลับมาเยอะมากๆ
หนิงเป็นคนที่ทำทุกอย่างเยอะมาก ?
หนิง : ถ้ามันไม่ใช่ความสุขหนิงจะทำไม่ได้ แต่เวลาที่ทำอะไรออกไปแล้วมันสำเร็จ แล้วต่อยอดให้สิ่งที่เราทำแล้วสำเร็จด้วยอันนั้นคือความสุข เมื่อก่อนจะเป็นความคิดว่าอยากทำเพราะฉันอยากได้ตังค์ เพราะอยากรวย อยากมี อยากได้ พอเป็นอย่างนั้นแล้วมันก็จะมีพลังงานลบเข้ามา แต่วันนี้มีความรู้สึกว่าถ้าเราทำแล้วไม่มีความสุข หนิงจะถอยทันที แต่หนูจะทำในสิ่งที่มีความสุข มันเหนื่อยแต่ปลายทางมันทำให้เกิดพลังอย่างมหาศาล ในคนที่ได้รับจากเรา สำเร็จ มีรอยยิ้ม